Accessibility Tools

Skip to main content

กว่าทศวรรษกับบทบาทครูสอนนักเรียนตาบอดพิการซ้อน


ครู คือ อาชีพที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้กับนักเรียน และต้องอาศัยความอดทน มีความรักความเมตตา และมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อผู้เรียน แต่การเป็นครูที่สอนนักเรียนที่ตาบอดพิการซ้อนที่มีความพิการทางการเห็นและมีความพิการอื่นร่วมด้วย ครูต้องมีความทุ่มเทมากกว่า เพราะครูต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลายของนักเรียน ทั้งด้านการสื่อสาร

พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ การจัดการเรียนรู้ และการส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก เด็กที่ตาบอดพิการซ้อนนั้นมักมีข้อจำกัดในการเรียนรู้หลายด้าน ครูจึงต้องมีความเข้าใจและปรับเปลี่ยนวิธีการสอนให้เหมาะสม การสร้างสื่อการเรียนการสอนที่สามารถเข้าถึงได้เป็นเรื่องสำคัญ เช่น การใช้สื่อสัมผัส การบรรยายเสียง และกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วมผ่านประสาทสัมผัสที่เหลืออยู่ นอกจากนี้ครูยังต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้ปกครอง ซึ่งค่อนข้างมีข้อจำกัด

ถึงแม้ว่าจะมีความท้าทาย แต่เมื่อเห็นพัฒนาการของนักเรียนคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่สำหรับครู การที่เด็กสามารถสื่อสารและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วยตนเอง แม้เพียงเล็กน้อยก็ถือเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจ จากการได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนครูหลายคนที่ทำงานในสายนี้ ได้กล่าวถึงความผูกพันที่เกิดขึ้นกับนักเรียน ความรักความเมตตา และความเข้าใจทำให้การทำงานเป็นมากกว่าหน้าที่ แต่เป็นภารกิจที่เต็มไปด้วยความหมาย

ครูสอนนักเรียนตาบอดพิการซ้อนนั้น ไม่เพียงแค่ช่วยนักเรียนพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะด้านการเรียนรู้ แต่ยังช่วยให้พวกเขามีทัศนคติที่ดีต่อชีวิต รู้จักความสามารถของตนเอง และสามารถปรับตัวในสังคมได้ ครูที่มีความทุ่มเท เข้าใจและใส่ใจในความต้องการของนักเรียนตาบอดพิการซ้อนจะสามารถเปลี่ยนชีวิตของนักเรียนตาบอดพิการซ้อนให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน

กว่าทศวรรษของข้าพเจ้ากับบทบาทครูในการพัฒนานักเรียนตาบอดพิการซ้อนเป็นสิ่งที่ท้าทายและสนุกกับการได้สร้างสรรค์และสรรหาสื่อที่เป็นประโยชน์กับนักเรียนของข้าพเจ้า การผลิตหนังสือที่นักเรียนสามารถเข้าถึงได้ การพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้นักเรียนเรียนรู้อย่างสนุก การทำวิจัย ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่านักเรียนทุกคนสามารถพัฒนาได้ ความเป็นครูข้าพเจ้าไม่สามารถเลือกนักเรียนได้ เมื่อมีนักเรียนเดินเข้ามาหาต้องสอนได้ นอกจากความรักความเมตตา ความทุ่มเทให้กับนักเรียนแล้ว ดิฉันได้รวบรวมประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการพัฒนานักเรียนตาบอดพิการซ้อน โดยมีหลักการต่างๆ ที่สำคัญดังนี้

การประเมิน การประเมินความสามารถและข้อจำกัดของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อสร้างแผนการสอนที่เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะบุคคล การประเมินนักเรียนแต่ละคนอย่างละเอียด เพื่อเข้าใจความสามารถและข้อจำกัดในการเรียนรู้ การประเมินนี้ช่วยให้สามารถวางแผนการเรียนรู้ที่เหมาะสมและตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลของนักเรียนตาบอดพิการซ้อน

ความสำคัญของทักษะการดำเนินชีวิตประจำวัน การสอนทักษะชีวิตพื้นฐานที่ช่วยให้นักเรียนสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเคลื่อนไหวในพื้นที่ การสื่อสารด้วยวิธีการต่าง ๆ และการพัฒนาทักษะทางสังคม และการพัฒนาทักษะการดำเนินชีวิตประจำวันช่วยให้นักเรียนตาบอดพิการซ้อนสามารถปฏิบัติกิจวัตรต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการพึ่งพาผู้อื่น และเพิ่มโอกาสในการมีส่วนร่วมในสังคม ตัวอย่างทักษะที่สำคัญ ได้แก่ การดูแลสุขอนามัยส่วนตัว เช่น การล้างมือ การแปรงฟัน และการแต่งกาย การรับประทานอาหารด้วยตนเอง การเคลื่อนไหวและการเดินอย่างปลอดภัยในบริเวณบ้าน หรือชุมชน

การสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่เอื้ออำนวย การจัดสภาพแวดล้อมในห้องเรียนที่ปลอดภัย สะดวก และส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วม การจัดวางสิ่งของในลักษณะที่เป็นระบบ เพื่อให้นักเรียนตาบอดพิการซ้อน สามารถจดจำและใช้งานได้ง่าย เช่น การติดป้ายสัมผัส หรือสัญลักษณ์ที่ช่วยระบุตำแหน่ง

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายและยืดหยุ่น การออกแบบกิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียนทุกคน โดยใช้สื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสม เช่น สื่อที่เป็นของจริง สื่อสัมผัส สื่อเสียง หรือสื่อดิจิทัลที่เหมาะสมสำหรับนักเรียนตาบอดพิการซ้อน และการฝึกกิจกรรมต่างๆ ต้องพยายามแทรกการฝึกทักษะที่หลากหลายโดยการบูรณาการเข้าด้วยกัน การสอนสิ่งที่มีความหมายแก่นักเรียน และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นนามธรรม ซึ่งนักเรียนตาบอดพิการซ้อนจะเข้าใจได้ยาก ครูต้องพยายามใช้คำอธิบายอย่างง่ายและยกตัวอย่างประกอบ ต้องพยายามสอนให้นักเรียนตาบอดพิการซ้อนมีประสบการณ์ และสอนให้นักเรียนมีทักษะในการคิดสอนโดยใช้ของจริงหรืออุปกรณ์ประกอบทุกครั้ง ต้องให้เวลากับนักเรียนในการเปลี่ยนกิจกรรมอย่างหนึ่งไปสู่อีกอย่างหนึ่ง การประเมินผลความก้าวหน้าของนักเรียนในทุกๆ ด้านอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปปรับเปลี่ยนวิธีการฝึกใหม่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การสนับสนุนด้านจิตใจและสังคม นักเรียนตาบอดพิการซ้อนทุกคนมีความต้องการพื้นที่เหมือนกับเด็กทั่วๆ ไปนั่นคือ ความต้องการความรัก ความเข้าใจ การยอมรับ แต่แน่นอนว่านักเรียนตาบอดพิการซ้อนมักเผชิญกับความท้าทายทั้งด้านอารมณ์และการเข้าสังคม การสร้างความมั่นใจในตัวนักเรียน การส่งเสริมให้นักเรียนตาบอดพิการซ้อนรู้สึกมีคุณค่า การส่งเสริมให้เข้าร่วมกิจกรรมที่พัฒนาทักษะการสื่อสาร ทักษะทางสังคม และการทำงานร่วมกับผู้อื่น ช่วยให้นักเรียนพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเอง เด็กทุกคนจะเรียนได้ถ้าเขามีความรู้สึกประสบความสำเร็จ และที่สำคัญ การสอนนักเรียนตาบอดพิการซ้อน ต้องอาศัยแรงจูงใจและการเสริมแรง และบรรยากาศที่ผ่อนคลาย

ข้าพเจ้าเชื่อว่าบทบาทของครูในการพัฒนานักเรียนตาบอดพิการซ้อนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ครูไม่เพียงแต่ต้องมีความรู้และมีทักษะเฉพาะทาง แต่ยังต้องมีความเข้าใจและความเอาใจใส่ในการสร้างโอกาสให้กับนักเรียน เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตและมีคุณภาพชีวิตที่ดีในสังคม และจะต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย แต่ครูมีบทบาทสำคัญที่สุดในกระบวนการนี้ ด้วยความเอาใจใส่ ความอดทน และความมุ่งมั่น ครูสามารถเป็นแรงผลักดันให้นักเรียนกลุ่มนี้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่