เขียนโดย admin ใน . โพสใน สำนักงานสาขา - ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพคนตาบอดพิการซ้ำซ้อนนครนายก .
ประธานกรรมการดำเนินงานมูลนิธิ สาขาจังหวัดนครนายก
มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินงานพัฒนาคุณภาพชีวิตคนตาบอดทุกเพศ ทุกวัย มาเป็นปีที่ 45 ผลงานเป็นที่ยอมรับของครอบครัว ชุมชน และสังคมในระดับประเทศและต่างประเทศ นำมาซึ่งโอกาสในการศึกษา การพัฒนาด้านเทคโนโลยี การเข้าสู่อาชีพ คนตาบอดสามารถเลี้ยงดูตนเอง ลดการพึ่งพิงผู้อื่น สำหรับกิจกรรมพัฒนาคนตาบอดพิการซ้ำซ้อนวัยผู้ใหญ่ที่ดำเนินการโดยศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน นครนายก (บ้านรื่นสุข) เริ่มเมื่อปี 2555 เป็นระยะเวลากว่า 11 ปี ปัจจุบันมีผู้รับบริการตาบอดพิการซ้ำซ้อนที่กำพร้า ไม่มีผู้อุปการะ ต้องพักอาศัยอยู่ภายในศูนย์ฯ ตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 79 คน ผู้รับบริการทุกคนได้รับการพัฒนาทักษะจำเป็นอย่างต่อเนื่อง เช่น ด้านการช่วยเหลือตัวเองและด้านอาชีพ มีผลิตภัณฑ์จากงานมัดย้อม งานร้อยลูกปัด รูปแบบสวยงามและประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น โดยผู้รับบริการและบุคลากรร่วมกันทำจำหน่ายให้แก่ผู้มาเยี่ยมชมงานมูลนิธิ กิจกรรมเหล่านี้มีจุดประสงค์ให้บุคคลทั่วไปเห็นถึงศักยภาพที่มีอยู่ของผู้รับบริการแต่ละคนและตัวผู้รับบริการมีความสุขที่ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ผู้รับบริการ ยังได้ทำกิจกรรมบําเพ็ญสาธารณประโยชน์ภายนอก อาทิ นายเอกรินทร์ ภาพันธ์ (อาร์ต) ร่วมกับผู้ดูแลของศูนย์ฯ ไปสอนอังกะลุงน้องๆที่โรงเรียนอนุบาลคุณากร ในพระราชูปถัมภ์ของ พลเอกหญิง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่ในโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า กิจกรรมแสดงอังกะลุงในงานกฐินสามัคคีประจำปีที่วัดจุฬาภรณ์วนาราม กิจกรรมแสดงอังกะลุงแก่ผู้สูงอายุที่ศูนย์คามิลเลี่ยน จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งทำให้ผู้รับบริการได้ทำกิจกรรมตอบแทนสังคม ทั้งนี้ศูนย์บริการคนพิการมูลนิธิ สาขาจังหวัดนครนายก ยังได้ลงเยี่ยมคนตาบอดในชุมชนของอำเภอบ้านนา รวม 6 ตำบล จำนวน 74 คน เพื่อติดตามผลการให้ความช่วยเหลือ การค้นหาความต้องการด้านอาชีพตามความสนใจของคนตาบอดในชุมชน อันจะนำไปสู่การส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามนโยบายของมูลนิธิ กิจกรรมทั้งหลายดังกล่าวข้างต้นสำเร็จได้ตามวัตถุประสงค์ เกิดจากผู้มีอุปการะคุณที่บริจาคทุนทรัพย์ สิ่งของ และสนับสนุนกิจกรรมระดมทุน เช่น การร่วมซื้อเสื้อยืดภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลคนตาบอดพิการซ้ำซ้อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก รวมทั้งเป็นสะพานบุญบอกต่อไปยังเพื่อนๆในหลากหลายช่องทาง ทำให้มูลนิธิเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปเพิ่มขึ้นตลอดปี
ขอชื่นชมบุคลากรทุกคน ทุกฝ่าย ที่ปฏิบัติงานด้วยความเสียสละ และขอขอบคุณคณะกรรมการมูลนิธิ ที่มีจิตเมตตา อุทิศตน ทำให้คนตาบอดได้รับโอกาสพัฒนาตนเองเต็มศักยภาพ ดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมเช่นเดียวกับบุคคลทั่วไป มีความภาคภูมิใจในตนเอง และเป็นกำลังหนึ่งของชาติที่มีความรู้ความสามารถแม้ภายใต้ข้อจำกัดของความพิการ